รูปแบบยาที่มีใช้ในโรงพยาบาลวังโป่ง : Adenosine
inj. 3 mg/mL in 2 mL vial
ข้อบ่งใช้
- Supraventricular tachycardia(SVT)
- Rate เร็ว (150-250 ครั้ง/นาที) สม่ำเสมอ
- P wave หัวตั้งหรือหัวกลับ บางครั้งมองไม่เห็น หรือตามหลัง QRS
- QRS ตัวแคบปกติ
- มักเกิดทันทีและหยุดทันที อาจเริ่มต้นจาก PAC(Premature Atrium Contraction)
- มักพบในคนอายุน้อย
- อาการ : อาจมีใจสั่น เจ็บหน้าอก หายใจขัด ปวดศีรษะ เป็นลม หน้ามืด อาการอาจเกิดและหยุดทันที
- การรักษาพยาบาล SVT
- จับชีพจร
- หาสาเหตุร่วม เช่น ภาวะที่มีการออกกำลังกาย มีอารมณ์ตื่นเต้นตกใจ เจ็บปวด มีไข้ มีภาวะเลือดออก ตกเลือด ช็อก การรับประทานอาหารที่มีคาเฟอีน ภาวะวิตกกังวล(Anxiety) ภาวะเครียด(Stress) แล้วทำการแก้ไขที่สาเหตุ
- สาเหตุจากยาทำให้หัวใจเต้นเร็ว เช่น Aminophylline, Dopamine, Epinephrine, Hydralazine, Atropine เป็นต้น
- Valsalva maneuver โดยการหายใจเข้าแล้วเบ่ง
- Carotid sinus massage โดยนวดที่ angle of mandible กดไม่เกิน 5 วินาที สังเกตภาวะ stroke ห้าม! ทำในผู้ป่วยมีประวัติขาดเลือดไปเลี้ยงสมองชั่วคราว
- Cardiac thallium
- Paroxysmal supraventricular tachycardia (PSVT)
การรักษาโดยใช้ยา Adenosine ขนาดยาผู้ใหญ่
* SVT: initial 6 mg IV peripheral bolus over 1 to 2 seconds followed by 20 mL saline flush, increase to 12 mg every 1 to 2 minutes as needed for 2 doses; MAX 12 mg/dose
* Cardiac thallium : 140 mcg/kg/min IV for 6 min
* PSVT: initial 6 mg IV peripheral bolus over 1 to 2 seconds , increase to 12 mg every 1 to 2 minutes as needed for 2 doses; MAX 12 mg/dose5
* SVT: initial 6 mg IV peripheral bolus over 1 to 2 seconds followed by 20 mL saline flush, increase to 12 mg every 1 to 2 minutes as needed for 2 doses; MAX 12 mg/dose
* Cardiac thallium : 140 mcg/kg/min IV for 6 min
* PSVT: initial 6 mg IV peripheral bolus over 1 to 2 seconds , increase to 12 mg every 1 to 2 minutes as needed for 2 doses; MAX 12 mg/dose5
ขนาดยาเด็ก
* SVT: initial, 0.1 mg/kg IV or INTRAOSSEOUSLY followed by saline flush, MAX 6 mg/dose; may repeat at at 0.2 mg/kg as needed; MAX 12 mg/dose
* PSVT
a) (weight less than 50 kg), initial 0.05 to 0.1 mg/kg/dose IV as a rapid bolus (MAX 6 mg/dose); may repeat at increasing increments of 0.05 to 0.1 mg/kg/dose IV every 1 to 2 min as needed; MAX single dose of 0.3 mg/kg
b) (weight at least 50 kg or above), initial 6 mg IV peripheral bolus over 1 to 2 seconds, increase to 12 mg every 1 to 2 min as needed for 2 doses; MAX single dose 12 mg
การบริหารยา Adenosine
* SVT: initial, 0.1 mg/kg IV or INTRAOSSEOUSLY followed by saline flush, MAX 6 mg/dose; may repeat at at 0.2 mg/kg as needed; MAX 12 mg/dose
* PSVT
a) (weight less than 50 kg), initial 0.05 to 0.1 mg/kg/dose IV as a rapid bolus (MAX 6 mg/dose); may repeat at increasing increments of 0.05 to 0.1 mg/kg/dose IV every 1 to 2 min as needed; MAX single dose of 0.3 mg/kg
b) (weight at least 50 kg or above), initial 6 mg IV peripheral bolus over 1 to 2 seconds, increase to 12 mg every 1 to 2 min as needed for 2 doses; MAX single dose 12 mg
การบริหารยา Adenosine
- ใช้ Syringe 2 อัน อันหนึ่งใส่ยา adenosine อีก syringe ต่อเข้ากับ NSS(20 mL) เพื่อฉีดตามยาให้เข้าไปอย่างรวดเร็ว โดยต่อเข้า 3-way stopcock และยกแขนสูง
ข้อห้ามใช้
1. hypersensitivity to adenosine 2. second or third
degree AV block
3. sinus node dysfunction, such as sick sinus syndrome or
symptomatic bradycardia
4. Asthma
ประเด็นปัญหา
1. ชื่อคล้ายกับยา
Adrenaline (Epinephrine)
2. การเกิดภาวะ
cardiac arrest เนื่องจากเป็นยาที่มี therapeutic index
แคบ
แนวทางการจัดการ
การคัดเลือก
จัดหา
(Supply)
|
1. ต้องจัดซื้อยาที่มีฉลากชัดเจน อ่านง่าย
และมีภาชนะบรรจุที่สะดวก ปลอดภัย
2. หลีกเลี่ยงการจัดซื้อยาที่มีลักษณะยา
ลักษณะบรรจุภัณฑ์คล้ายคลึงกันซึ่งอาจก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนทางยา
3. หากมีการเปลี่ยนแปลงขนาดบรรจุ หรือความแรง
ฝ่ายเภสัชกรรมชุมชนจะต้องทำหนังสือแจ้งเวียนให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ซึ่งได้แก่
แพทย์ งานอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน หอผู้ป่วยใน โดยทันที
|
การจัดเก็บ
(Storage)
|
1. ให้ทำการจัดเก็บในอุณหภูมิห้อง
ไม่ควรเก็บในตู้เย็นเนื่องจากยาอาจ ตกตะกอน
2. ให้มีการสำรองยาได้ที่ห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ปกติไม่เกิน 5 vials
3. การจัดเก็บยาต้องแยกเก็บในพื้นที่เฉพาะแยกจากยาอื่น ๆ
และติดป้ายบอกยากลุ่มเสี่ยงอย่างชัดเจน
4. ห้องยาติดแถบสีแดงที่ ampoule ยา เพื่อแจ้งเตือน
|
การสั่งใช้ยา
(Prescribing)
|
1. แพทย์ควรสั่งยาด้วยชื่อสามัญทางยาที่ชัดเจน อ่านง่าย
ห้ามใช้ชื่อย่อ
2. แพทย์ควรสั่งยาด้วยข้อมูล ดังนี้
- ชื่อยา ขนาดการใช้ยา ตามแนวทางที่ระบุสำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก
3. เปลี่ยนแปลงชื่อในคอมพิวเตอร์ ให้ต่างจาก Adrenaline เพื่อป้องกันความสับสนในการสั่งใช้ยา (โดยใช้ Tall Man Letter)
4. ห้ามสั่งใช้ยาทางวาจา หรือโทรศัพท์
|
การเตรียม
(Preparation)
|
1.ไม่ควรทำการเจือจาง เนื่องจากยาสามารถใช้ได้เลยตามขนาดยาที่ต้องการ
2. หากพบว่ายามีการตกตะกอน ห้ามใช้ยานี้เด็ดขาด
ควรวางทิ้งไว้ให้ตะกอนหายก่อนใช้
|
การบริหารยา
(Administration)
|
1. ควรมีการระบุตัวผู้ป่วยให้ชัดเจนก่อนบริหารยา
2.ให้ยาผ่านเส้นเลือดที่ใกล้หัวใจที่สุดโดยวิธี
iv push และฉีด NSS ตาม 20 mL เพื่อให้ยาออกฤทธิ์เร็วขึ้นใช้ Three
way
|
การติดตาม
(Monitoring)
|
1. EKG ก่อน และหลังบริหารยา
2. BP, HR ทุก 2 นาที 3 ครั้ง
3. อาการข้างเคียง: ใบหน้าร้อนวูบวาบ (facial flushing), ใจสั่น, เจ็บหน้าอก, ความดันโลหิตต่ำ,
ปวดศีรษะ,
เหนื่อยหอบ
ควรแจ้งแพทย์ทันที เมื่อ
1. BP < 90/60 mmHg 2. HR < 60
BPM
***กรณีที่ได้รับยาซ้ำแล้วไม่ตอบสนองให้ลองทบทวนหาสาเหตุดังนี้ วิธีการฉีดไม่ถูกต้อง (ฉีดยาหรือ Flush saline ตามไม่เร็วพอ, เปิดเส้นแขนที่ส่วนปลายมือ) *** ถ้า Unstable ให้เตรียม Cardioversion 100 j ทันที (Biphasic ลดลงครึ่งหนึ่ง) และค้นหา/แก้ไขสาเหตุ |
วิธีปฏิบัติเพื่อแก้ไขอาการไม่พึงประสงค์
|
อาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นจะเกิดอย่างรวดเร็วและหายได้เอง
มีความเป็นพิษเพียงระยะสั้น ๆ เนื่องจากยามีค่าครึ่งชีวิตสั้นมาก (half-life ของยา ADONOSINE < 10 วินาที)
|
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น